เรามีทั้งสิ่งที่อยากทำ และสิ่งที่ต้องทำ แต่ในยุคที่เต็มไปด้วย Passion และตัวอย่างของคนที่ประสบความสำเร็จจากการได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรักมากมาย
หลายคนก็เลยตัดสินใจทิ้งในสิ่งที่ต้องทำอย่างการลาออกจากงานประจำแล้วหันมาทำในสิ่งที่อยากทำแบบเต็มตัว
ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร แต่ลืมไปหรือเปล่าว่ามันก็มีหลายคนเหมือนกันนะที่ไม่ได้ประสบความสำเร็จ
เพียงแต่เค้าไม่เคยออกมาพูดให้ใครฟังก็เท่านั้นเอง
เพราะ passion อย่างเดียวไม่อาจทำให้ความฝันกลายเป็นจริงได้ แต่มันยังจะต้องประกอบไปด้วยปัจจัยอีกหลายๆ อย่าง และถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ยังตัดสินใจไม่ได้ ว่าจะเลือกทำในสิ่งที่อยากทำ หรือจะทำในสิ่งที่ต้องทำดี ?
เราขอแนะนำให้คุณทำมันซะสองอย่างไปเลย !
เหมือนกับ Mo Girl Boss ของเราอย่างคุณเดียร์ ขวัญมนัส ลิ้มเจริญ ที่ยังคงทำงานประจำเป็น Head Of Functional Drink ให้กับบริษัทเครื่องดื่มชื่อดังในไทย และยังควบตำแหน่งเจ้าของร้านอาหารกึ่งคาเฟ่สไตล์เกาหลีที่ใช้ชื่อว่า “Super Seoul”
ซึ่งงานทั้งสองของเธอเป็นสิ่งที่ต้องใช้ความตั้งใจและโฟกัสในการทำเป็นอย่างมาก เพราะที่งานประจำเธอก็เป็นระดับหัวหน้า ส่วนงานที่ร้านเธอก็ไม่ได้เป็นแค่ผู้ก่อตั้ง แต่ยังเป็นพาร์ทเนอร์ใหญ่ที่ต้องหารายได้ให้กับร้าน ที่สร้างมาด้วยเงินทุน 5-6 ล้านจากพาร์ทเนอร์คนอื่นๆ อีกด้วย
เก็บความฝันที่มีในวัยเด็กเอาไว้ แล้วมาหาประสบการณ์ในโลกความเป็นจริงก่อน
จริงๆ แล้วความฝันของคุณเดียร์ก็ไม่ได้แตกต่างจากความฝันของผู้หญิงทั่วไป นั่นคือการมีร้านอาหาร มีคาเฟ่เป็นของตัวเอง ประกอบกับคุณแม่ของเธอเคยเปิดร้านอาหารไทย หลายๆ อย่างจึงหล่อหลอมให้เธออยากจะทำร้านอาหารเป็นของตัวเองในสักวัน
แต่ด้วยความรู้สึกที่ว่า ‘จบมาจะต้องหาประสบการณ์ก่อน’ คุณเดียร์จึงสมัครเข้าทำงานในสาย Marketing ตามที่เรียนมา ที่ทำให้เธอได้รู้ระบบของคนที่เค้าทำงานกันจริงๆ ได้รู้เทรนด์ ได้รู้ภาพรวมของ Industry ว่าธุรกิจใหญ่ๆเค้ามีมุมมองกันยังไง
ทำบริษัทแรกก็ย้ายไปบริษัทที่สองเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ไปได้สักพัก คราวนี้ก็ถึงเวลาของความฝันบ้างแล้ว
Passion อย่างเดียวไม่เพียงพอที่จะทำความฝันให้สำเร็จได้
สิ่งที่ทำให้คุณเดียร์เลือกที่จะทำร้านอาหารกึ่งคาเฟ่ในสไตล์เกาหลี อย่างแรกเลยก็คงหนีไม่พ้นเรื่อง ‘ความชอบ (มากๆ)’ บวกกับการที่แฟนของเธอเป็นคนเกาหลี จึงทำให้ได้เรียนรู้ความเป็น ‘โคเรียน’ในมุมมองที่แตกต่างและลึกลงไป
“คือเกาหลีมันไม่ใช่แค่บอนชอน บิบิมบัพ (ข้าวยำเกาหลี) หรือต้องเปิดเพลง K-pop ในร้าน อะไรแบบนั้นมันเป็นแค่ Perception ของคนไทย แต่ถ้าได้ลองไปเกาหลีจริงๆ คนเกาหลีก็ไม่ได้ใส่ชุดฮันบกเดินกัน ก็เหมือนกับบ้านเรา ที่มีการผสมผสานวัฒนธรรมท้องถิ่นกับต่างชาติเข้าไป”
ซึ่งกว่าจะกลายมาเป็นร้านเกาหลีที่มีคอนเซปต์นั่งชิลล์แบบนี้ได้ Super Seoul เคยผ่านการคิดมามากกว่า 10 คอนเซปต์ทั้งปิ้งย่างร้านสไตล์ทหาร และแบบอื่นอีกมากมาย แต่สิ่งที่ทำให้สุดท้ายมันกลายมาเป็นร้านนั่งชิลล์อย่างทุกวันนี้เพราะเธอมองว่ามันเป็นคอนเซปต์ที่สามารถอยู่ได้นานไม่ได้เป็นแค่เทรนด์ที่ขายดีแค่ช่วงเดียวแล้วที่เหลือก็เงียบไป
ที่สำคัญพอคิดได้คุณเดียร์ก็ยังเอาไปถามคนอื่นด้วยว่ามันโอเคมั้ย ไม่ใช่คิดแค่จากความชอบของตัวเอง เพราะบางครั้งความคิดที่เรารู้สึกมั่นใจกับมันมาก แต่ลูกค้าก็อาจจะไม่ชอบมันเลยก็ได้
ไม่ใช่แค่กับเรื่องคอนเซปต์ร้าน เพราะกับเมนูอาหารก็ยังต้องถามความเห็นจากลูกค้าด้วยเหมือนกัน ถึงจะไม่ได้เป็นการเดินเข้าไปถามแบบตรงๆ แต่เธอก็สามารถรู้คำตอบได้ด้วยยอดขาย
“สองเดือนแรกที่เปิดร้านเราต้องเรียนรู้แล้วว่าอันไหนขายดี–อันไหนขายไม่ดี แล้วค่อยมานั่งเลือกว่าจะเก็บหรือจะตัดเมนูไหนออกไป พอรู้แบบนี้แล้วมันก็จะทำให้เราจัดการกับวัตถุดิบได้ ไม่เหลือค้างสต็อก เพราะถ้ามันเหลือก็เหมือนกับเราทิ้งเงินไปฟรีๆ ยัไงเราก็ไม่กล้าเอาของไม่ดีมาทำให้ลูกค้ากินอยู่แล้ว ”
เก่งคนเดียวไม่พอแต่ยังต้องสอนให้ลูกน้องเก่งงานที่ทำถึงจะสำเร็จได้
“เพราะเราไม่สามารถทำทุกๆ อย่างด้วยตัวเองได้ แม้จะเก่งแค่ไหนก็ตาม” ยิ่งกับการทำงานประจำที่เป็นตำแหน่งหัวหน้า ควบคู่ไปกับการทำร้านอาหาร ธุรกิจที่ถ้าใครเคยลองทำก็จะรู้ดีว่ามันยุ่งยากขนาดไหน
แต่สิ่งที่ทำให้คุณเดียร์สามารถทำทั้งสองอย่างควบคู่กันแถมยังทำออกมาได้ดี เป็นเพราะเธอรู้จักที่จะ ‘บริหารคน บริหารเวลา’ เวลาอยู่ออฟฟิศก็จะโฟกัสกับการทำงานประจำให้เสร็จ ไม่แบกกลับมาทำที่บ้าน
ส่วนงานที่ร้านก็จะให้พนักงานทุกคนช่วยกันรันงาน ที่กว่าจะทำให้มัน Flow อย่างทุกวันนี้ได้นั้น ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ต้องมาจากระบบจัดการที่ดี ที่คุณเดียร์จะผลัดเปลี่ยนหน้าที่ของพนักงานแต่ละคนในทุก 2 เดือน เพื่อให้ทุกคนทำทุกอย่างในร้านเป็น หากวันนี้คนเสิร์ฟไม่มา อีกคนก็ต้องเสิร์ฟแทนได้ หรือถ้าแคชเชียร์ไม่สบาย คนอื่นก็ต้องมายืนหน้าเคาน์เตอร์เก็บเงินทอนตังค์ให้เป็น
ซึ่งแน่นอนว่าถ้าเธอไม่สอนให้ลูกน้องเก่ง ลำพังตัวเธอเองก็คงจะไม่มีเวลามากพอที่จะสามารถทำทุก ๆ อย่างด้วยตัวเองได้ทั้งหมด
ถึงตอนทำร้านจะเคยลาออกมาช่วงนึง แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจเข้าไปทำงานประจำใหม่
ต้องยอมรับว่าในช่วงแรกที่ทำร้าน ที่อะไรๆ มันยังไม่ลงตัวเท่านี้ คุณเดียร์จำเป็นจะต้องออกจากงานประจำแล้วมาดูร้านอย่างเต็มตัวอยู่ 7 เดือนเต็ม
แต่เมื่อระบบทุกอย่างในร้านมันรันไปได้ด้วยตัวเอง จนมั่นใจว่ายังไง Super Seoul ก็อยู่ด้วยตัวมันเองและทำกำไรได้ แต่คุณเดียร์ก็ยังเลือกที่จะเหนื่อยสองต่อ กลับไปทำงานประจำเป็นมนุษย์เงินเดือนเหมือนที่เคยทำ
ที่เธอบอกว่า “เดียร์ว่าตัวเองยังมี Energy ทำอะไรได้อีกเยอะ ถ้าจะทำอย่างใดแค่อย่างนึงมันยังไม่เต็มกำลังความสามารถที่ทำได้ อีกอย่างเดียร์ว่าเดียร์ยังต้องเก็บเกี่ยวประสบการณ์ต่างๆ อีกมาก การทำงานประจำมันจะทำให้อะไรบางอย่าง ที่ทำให้เราเอามาดัดแปลงเข้ากับธุรกิจของตัวเองได้จริงๆ “
คิดอะไรได้แล้วให้รีบลงมือทำ แต่ต้องคิดอย่างรอบคอบด้วยนะ ไม่ใช่คิดไปเอง
คุณอาจจะเคยได้ยินคำพูดที่ว่า “คิดอะไรได้ อย่ารอเวลา ให้รีบลงมือทำ” แต่คุณเดียร์ขอเสริมคำพูดดังกล่าวต่อท้ายเข้าไปว่า
“แต่มันก็ต้องเป็นการคิดอย่างรอบคอบด้วยนะ อย่าให้ Passion มาลวงตา เพราะในโลกของความเป็นจริงทุกอย่างมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น หรืออย่างการที่จะออกมาทำอะไรบางอย่าง มันก็ไม่จำเป็นว่าเราจะต้องทิ้งอีกอย่างเสมอไป ซึ่งสุดท้ายแล้วมันก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคนว่าจะเหมาะกับแบบไหน เราจะอยู่กับมันได้จริงๆ รึเปล่า หรือถ้าเจออุปสรรคนิดๆ หน่อยๆ ก็ถอดใจหนีไป”
เพราะไม่อย่างนั้นการลาออกของคุณมันจะเป็นการลาออกมาเพื่อหนีจากสิ่งที่ไม่ชอบ เพื่อมาหาสิ่งที่ก็ยังไม่รู้ว่าชอบจริงๆ หรือเปล่าก็เป็นได้
Be Mo. Girl Boss likes k.Dear click > Doctor Mo. LUXE