Mo. x Mae Teeta

ในวันที่เร่งรีบ และเหนื่อยล้า จากทุกสิ่งรอบตัว พอได้หยุดพัก ได้หายใจ ที่สตูดิโอแม่ฑีตาของป้าจิ๋วกับคุณมอญแล้วรู้สึกอุ่นใจ 

ในวันนั้น…ความตั้งใจที่จะทำ Mo. ให้เป็นแบรนด์กระเป๋าหนังแบบ Affordable Luxury ในวันที่ Online Brand ยังมีแบบนับจำนวนได้  ในวันนี้…ยุค Covid ที่ทุกคนกลายเป็นมี presence ในช่องทาง online กันหมด ต้นทุนของแบรนด์ในวันนี้เลยกลายเป็นสูงขึ้น แต่เราก็ยังคงใช้ material และใช้ฝีมือช่างที่ได้คุณภาพแบบดีที่สุด ไม่ได้ลดต้นทุนที่มีผลต่อสินค้าใดๆเลย แถมยังจะมีอะไรใหม่ๆ เพิ่มขึ้นด้วยซ้ำ เพราะด้วยความเชื่อบางอย่าง เราอยากทำโปรเจ็คทดลองบางอย่าง…ไม่รู้จะออกมาเป็นอย่างไร


เราคอยมองหาวัสดุใหม่ๆ โดยใช้แกนความเป็นธรรมชาติ ความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก และวัสดุที่น่าจะเอามาลองใช้ทำกระเป๋าได้ เป็นโจทย์ที่มีอยู่ในใจมานาน แต่ก็กล้าๆกลัวๆที่จะทำ เพราะรู้ว่า “ยาก” คือ “ผ้าไทย” พอลองเสาะหาดูมีพี่ที่รู้จักแนะนำ แบรนด์ แม่ฑีตา และมีการชื่นชมเป็นพิเศษถึงเจ้าของแบรนด์คือ ป้าจิ๋ว

แบรนด์ แม่ฑีตา เป็นแบรนด์ผ้าฝ้ายทอมือ ที่ทำตั้งแต่กระบวนการเก็บฝ้าย ย้อม และถักทอ โดยใช้พืชที่มีอยู่ในธรรมชาติมาสกัดใช้ ไร้สารเคมีหมดทุกขั้นตอน และมีการกระจายรายได้สู่ชุมชนในจังหวัดสกลนคร โดยส่งมอบงานโดยให้ชุมชนถักทอผืนผ้า ตามความถนัดของแต่ละครอบครัว

ผ้าจาก แม่ฑีตา จึงตอบโจทย์สำหรับวัสดุที่เรากำลังมองหาทั้งทางสังคม วัฒนธรรม และทางสิ่งแวดล้อม 🙂

พอได้ลอง search ดู ก็เห็นมีผู้มีชื่อเสียง หรือแม้กระทั่งหนังจากต่างประเทศได้ใช้เสื้อผ้าจากผ้าของแบรนด์นี้ ก็ยิ่งทำให้เราสงสัยว่า ทำไมผ้าของแม่ฑีตาถึงแตกต่าง?  

LOCAL HARVESTED, TRADITIONAL PROCESSES, NO SYNTHETIC CHEMICAL ADDED, NON MACHINE, WITH PERSONAL PASSION AND FROM QUALITY RAW MATERIALS SINCE 1992  

พอได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับ ป้าจิ๋วและคุณมอญ เจ้าของแบรนด์ เลยได้เห็นว่า ผ้าของเขา ยิ่งกว่า ผ้าไทย ที่เราคุ้นเคยอีกนะ เข้าใจแล้วว่า ทำไมผ้าของแบรนด์แม่ฑีตาจึงใช้ระยะเวลานานมากในการทำ และถึงแม้มีราคาสูง แต่มีลูกค้าที่เข้าใจมาสนับสนุนอยู่เรื่อยๆ  น้อยคนนักที่จะรู้ลึกซึ้งถึงขั้นตอนการทำผ้า…ตั้งแต่เก็บฝ้าย จนถึงกระบวนการหมักวัสดุทำสีจากธรรมชาติเช่น คราม กับ มะเกลือ และน้อยรายที่จะใช้ทุกอย่างโดยไม่ผ่านสารเคมีใดๆเลย เพราะเคมีคือเร็ว คือสะดวก แต่การทำงานจากสิ่งที่มีตามธรรมชาติ จะใช้เวลา เลยไม่ค่อยมีใครทำแบบแม่ฑีตากันสักเท่าไหร่ 

จากแต่ก่อน ที่การทำผ้าฝ้ายทอมือ การย้อมคราม กำลังล้มหายตายจากไป ป้าจิ๋วได้เป็นคนชุบชีวิตให้กับองค์ความรู้แบบไทยโบราณ กลับมาเป็นอาชีพสร้างรายได้ให้กับชุมชนในจังหวัดสกลนครอีกครั้ง  

การทำผ้าแต่ละครั้ง ป้าจิ๋วใช้แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ และอาศัยประสบการณ์ที่เลือกผู้ทอที่มีฝีมือการถักทอของแต่ละลาย ด้วยความชำนาญของแต่ละครอบครัว ซึ่งทำกันมา 3-4 รุ่น การทำงานจะไม่เหมือนโรงงานที่สามารถระบุได้ว่า จะได้ผ้าวันไหน คนทอจะมีความศิลปินค่อนข้างสูง ป้าจิ๋วบอกว่า ยิ่งกว่าศิลปินอีก!  ผ้าแต่ละผืนก็จะไม่เหมือนกันเลย ได้เอกลักษณ์ความงานคราฟท์ งานฝีมือ ที่หายากในยุคที่ทุกอย่างหมุนไว ใช้เครื่องจักร เลยทำให้กระเป๋าของ Mo. รุ่นนี้ ไม่เหมือนกันเลยสักใบ

รู้มั๊ยว่า ผลิตผ้าฝ้ายมีฤดูกาลนะ ทำขึ้นมาได้แค่ปีละ 1 ครั้ง เพราะขึ้นอยู่กับฤดูเก็บฝ้าย เก็บครามและวัสดุทำสีตามธรรมชาติอื่นๆ และรอให้อากาศพอเหมาะ ไม่ชื้น ไม่แห้งไป กว่าจะย้อม กว่าจะทอขึ้นมาได้ ไม่ใช่ง่ายๆเลย 

หลังจากได้รับแรงบันดาลใจป้าจิ๋ว ผู้บุกเบิกทำให้ผ้าฝ้ายทอมือ ผ้าครามกลับมาอยู่ในกระแสอีกครั้ง ทำให้เราอยากทำเรื่องยากขึ้นมาทันที ถ้าง่ายใครๆก็ทำได้ เราจึงใช้การออกแบบเป็นเครื่องมือ ที่นำผ้ามา styling ให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น แต่งตัวใช้ในชีวิตประจำวันได้  

งานที่สร้างสรรค์ด้วยงานฝีมือที่หายากแบบนี้ ต้องใช้ความเข้าใจ และรับรู้ถึงความตั้งใจ กว่าจะมาเป็นกระเป๋า Mo. x Teeta แบบนี้ ใช้เวลากว่า 6 เดือน เราตั้งใจผลิตเป็น Limited Collection เป็นชิ้นงานที่มีอยู่เพียง 20 ใบต่อลายผ้า เท่านั้น  

โดยมี 2 ลายที่เราได้แรงบันดาลใจจากธรรมชาติ ความอุ่นจากผืนดิน และฟ้าครามที่ถักทอ จากครอบครัวที่สกลนคร โดย Terraweave และ Skyweave เป็นผ้าฝ้ายที่ย้อมโดยใช้สีจากมะเกลือ และคราม ตามลำดับ

Support Mo. x Mae Teeta Collection

ขอบคุณที่รักกัน สนับสนุนความตั้งใจดี จาก Mo. ตลอดมา

และในวันนี้เรารู้และเข้าใจแล้วว่า…คุณค่าของแบรนด์เราที่อยากส่งต่อก็คือ
Affordable Luxury และ Local High End Craftsmanship