‘ต้า รรินทร์’ เจ้าของ O&B แบรนด์รองเท้า ‘ร้อยล้าน’ ที่ Nicky Hilton ยังเคยสวมใส่

3 ปีกับการเปลี่ยนเงินตั้งต้นในการทำธุรกิจหลักหมื่นให้กลายเป็นหลักร้อยล้านที่ไม่ว่าจะเป็นอั้ม พัชราภา, ชมพู่ อารยา หรือกับ Celebrity ระดับโลกอย่าง Lindsay Lohan และ Nicky Hilton ก็ล้วนแต่เคยสวมใส่รองเท้าของ O&B มาแล้วทั้งนั้น

แต่กว่า O&B จะกลายมาเป็นธุกิจที่มีมูลค่าร้อยล้าน และพึ่งจะขยับขยายออฟฟิศมาเป็นตึกสีชมพูย่านอารีย์ด้วยทุนสร้างเกือบ 5 ล้านบาท จนกลายเป็นอาณาจักรรองเท้าและ Accessories ที่สาวๆหลายคนต่างใฝ่ฝันอย่างทุกวันนี้ได้

ในอดีตมันเคยเป็นออฟฟิศที่มีขนาดเพียง 3 x 3 ตรม. ซึ่งอยู่ในชั้นใต้ดินของโรงงานทำกระเป๋ามาก่อน ผ่านการล้มลุกคลุกคลาน ลองผิดลองถูกมานับครั้งไม่ถ้วนของผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ชื่อว่า รรินทร์ ทองมา หรือที่ใครหลายๆ คนรู้จักเธอในนามของต้า O&B

ที่หากได้ลองอ่านบทสนทนาระหว่างเธอกับเราจากด้านล่างนี้

คุณก็จะรู้ว่าความคิดของเธอยิ่งใหญ่เกินกว่าขนาดของตัวหลายเท่า

มนุษย์เงินเดือนธรรมดา ที่เห็นช่องว่างในการทำธุรกิจ

ก่อนจะมาเป็นเจ้าของธุรกิจมูลค่าร้อยล้านอย่างทุกวันนี้ได้ ในอดีตคุณต้าเคยเป็นมนุษย์เงินเดือนทั่วไป เป็นพนักงานประจำ ที่เห็นช่องว่างในการขายสินค้าผ่านทางออนไลน์ ซึ่งยังถือว่าเป็นอะไรที่ใหม่มากๆ ในช่วงนั้น

ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 3-4 ปีที่แล้วการขายของผ่านทางออนไลน์เพิ่งเริ่มได้รับความนิยม ซึ่งตอนนั้นก็ยังมีแต่คนขายเสื้อผ้า แปลกมากที่ไม่ค่อยมีใครขายกระเป๋าสักเท่าไหร่ ต้าเลยคิดว่ากระเป๋านี่แหละน่าจะเป็นอะไรที่สามารถเติบโตได้ เพราะส่วนตัวก็เป็นคนชอบแฟชั่นอยู่แล้ว และกระเป๋ามันก็ไม่มีเรื่องไซส์ ไม่ต้องวุ่นวายเรื่อง Operation

พอยอดขายกระเป๋าเริ่มไปได้สวย ต้าก็เลยเพิ่มไลน์สินค้ามาเป็นรองเท้า เพราะคิดว่ากระเป๋ากับรองเท้ามันเป็น Accessories เหมือนกัน น่าจะเป็นอะไรที่ไปด้วยกันได้

ภาพถ่ายรองเท้าวางเรียงกัน 50 สี ผ่านมากี่ปีก็ยังใช้ได้อยู่

เชื่อว่าหลายคนคงจะเคยเห็นภาพโฆษณาที่เอารองเท้าทรงบัลเลต์มาเรียงต่อกันเป็นวงกลม 50 สี และถ้าสังเกตดีๆ ก็จะพบว่ามีโลโก้ของ O&B อยู่ในภาพนั้น ที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานกี่ปี O&B ก็ยังใช้ภาพดังกล่าวในการขายของได้อยู่ จนมันกลายเป็นเหมือนภาพ Signature ของแบรนด์ไปแล้ว

แต่จะมีสักกี่คนกันที่รู้ว่าภาพของรองเท้าทรงบัลเล่ต์ 50 สีนี้เกิดมาจากความคิดชั่ววูบของคุณต้าที่ง่ายๆเพียงแค่ว่า

ตอนที่ทำไม่ได้คิดอะไรเลยจริงๆ ต้าแค่จินตนาการเล่นๆ ว่าพอเอาหลายๆ สีมาวางเรียงต่อกันมันก็สวยดีเนอะ เลยตัดสินใจทำออกมา 30 สี แล้วรู้สึกว่ามันน้อยไปก็เลยเพิ่มมาเป็น 50 สีในเวลาต่อมา ทำออกมาทั้งๆ ที่ยังไม่ได้วางระบบสต็อกเลยด้วยซ้ำ ต้าแค่คิดในฐานะที่เราเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ว่าถ้าเห็นมันแล้วเราจะรู้สึกว้าวมั้ย คิดแค่นั้นเองจริงๆ

แม้จะเป็นแค่ความคิดชั่ววูบ แต่ที่จริงแล้วความคิดชั่ววูบนั้นมันคือการคิดจากมุมมองลูกค้า สิ่งที่นักการตลาดใช้งบประมาณหลายบาทในการทำ research เพื่อพยามที่จะหา consumer’s insight

แต่เธอกลับหามันได้ด้วยการคิดแค่ว่าตัวเองเห็นอะไรแล้วจะรู้สึกว้าวมั้ยเท่านั้นเอง

คนก็อปสินค้า O&B ได้ แต่ไม่มีใครก็อปความเป็น O&B ได้ 

เพราะสินค้าแฟชั่นเป็นอะไรที่ก็อปกันได้ง่าย และก็มีคนก็อปสินค้าที่เกิดจากการดีไซน์ของเธอไปขายแล้วด้วย!

แต่คุณต้ากลับมองว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาเพราะแม้จะมีคู่แข่งเพิ่มเข้ามา แต่ตลาดแฟชั่นมันเป็นอะไรที่ใหญ่จนสามารถแบ่งปันกันทำธุรกิจได้ และถึงจะก็อปดีไซน์ภายนอกให้เหมือนของ O&B ได้เหมือนขนาดไหนแต่คุณต้าก็บอกว่า

คนเหล่านั้นไม่มีทางที่จะก็อปความรู้สึกของ O&B ไปได้อยู่ดี ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกในการสวมใส่ที่นุ่มสบายไม่กัดเท้า หรือความรู้สึกดีที่ได้ใส่แบรนด์ของเรา

ของเหล่านี้มันอยู่นอกเหนือจาก Function เพราะคนที่ซื้อสินค้าแฟชั่น เค้าซื้อกันที่ Emotion ไม่อย่างงั้นเสื้อยืดก็คงมีแค่แบบเดียวบนโลกนี้แล้ว

และถึงยังไงเค้าก็ไม่สามารถก็อปความเป็น Branding ของ O&B ไปได้

หรือถ้าจะให้เราพูดง่ายๆ ก็คือไม่มีใครสามารถก็อปความเป็น รรินทร์ ทองมา ซึ่งถูกใส่ลงไปในทุกส่วนของ O&B นั่นเอง

เป็นทั้งเจ้าของแบรนด์ และคนยิง Facebook Ads ด้วยตัวเอง

แม้ตอนนี้ทีมงานของ O&B จะขยับขยายจากเดิมที่มีคุณต้าแค่เพียงคนเดียว จนกลายมาเป็นพนักงานกว่า 30 ชีวิตอย่างทุกวันนี้ได้ แต่ถึงยังไงเธอก็ยังคงทำหน้าที่ในการยิงโฆษณาของ O&B ในเพจ Facebook ด้วยตัวเองอยู่ดี

เพราะนี่คือสิ่งที่เธอชำนาญ และคือส่วนสำคัญที่ทำให้การขายผ่านช่องออนไลน์ของ O&B เติบโตมาขนาดนี้ได้

และในเมื่อเราอยู่กับมือบิดโฆษณา Facebook ยอดขายร้อยล้าน ก็คงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่ถามถึงเคล็ดลับว่าทำไม เธอถึงสามารถยิงโฆษณาได้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายขนาดนี้

คุณต้าไม่หวงวิชา แชร์ know-how การทำโฆษณาบน facebook ของ O&B ให้เราฟังว่า ก่อนจะกดซื้อบูสโพสต์ต้องตอบคำถามตัวเองให้ได้ก่อนว่าเป้าหมายที่แท้จริงของการบูสนั้นคืออะไร อยากสร้างยอดให้กับมัน หรืออยากให้คนเห็นสินค้าเพื่อสร้าง brand awareness เฉยๆ

พอรู้ว่าเป้าหมายของการบูสนั้นคืออะไร เราก็จะมีขอบเขตในการบูสมากขึ้นโฆษณาที่ถูกยิงออกไปก็มีประสิทธิภาพมากขึ้น

อีกสิ่งหนึ่งคือในยุคที่ Facebook ปรับอัตราให้โฆษณาเข้าถึงผู้คนน้อยลงเราจำเป็นจะต้องใช้เงินมากขึ้น อย่าไปงก เพราะถ้าบูสน้อยแล้วคนไม่เห็นมันก็ไม่ต่างอะไรกับการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำสู้ไม่ทำมันซะเลยยังจะดีกว่า

ตั้งเป้าหมายที่มีคุณค่า ไม่ใช่แค่ว่าจะต้องทำเงินได้เท่าไหร่

อ่านน่ะง่าย แต่ทำน่ะยาก เพราะกว่าจะกลายมาเป็นเรื่องเล่าของผู้หญิงไทยที่เป็นเจ้าของแบรนด์รองเท้ามูลค่าร้อยล้านอย่างทุกวันนี้ได้ คุณต้าต้องก้าวข้ามอุปสรรคมามากมาย อย่างบางช่วงบางตอนที่ทำงานเหนื่อยและหนักมาก จนทำ Passion ที่เคยมีเริ่มหายไปเธอ จึงต้องเติมไฟให้กับการทำงานด้วยการย้อนไปนึกถึงเป้าหมายที่ตั้งไวในตอนแรก

ซึ่งมันก็เป็นสิ่งทำให้เธอกลับมามี Passion มีแรงขับเคลื่อนในการทำงานอีกครั้ง แต่พอทำยอดขายได้ถึงหนึ่งร้อยล้านอย่างที่ตั้งใจเป้าหมายของเธอก็กลับเปลี่ยนไป

การที่คุณเห็นต้าตามสื่อต่างๆ มันไม่ได้แปลว่าต้าอยากจะมาขายของอยากจะมาโปรโมทตัวเองนะ เพียงแต่ต้าอยากจะใช้มันเป็นช่องทางเพื่อบอกให้ผู้หญิงหลายๆ คนได้รู้ว่าพวกเธอก็สามารถมีธุรกิจเป็นของตัวเองเหมือนกับต้าได้ 

และถ้าต้าเป็นส่วนเล็กๆ ที่ช่วยผลักดันบางอย่างในตัวพวกเขาได้ นั่นเท่ากับว่าแบรนด์ของต้ามันมีคุณค่า มีประโยชน์ต่อคนอื่น ซึ่งมันเป็นอะไรที่มากกว่าแค่แบรนด์รองเท้าทั่วไป

การตั้งเป้าหมายที่เป็นคุณค่า มันมีค่ามากกว่าเป้าหมายอย่างอื่นเป็นไหนๆ เพราะมันคือสิ่งที่จะช่วยล่อเลี้ยงให้เราอยากทำงานเพื่อตัวเองและคนอื่นๆ อีกต่อไปแบบไม่จบสิ้น

ไม่ได้พูดเพราะจะสร้างภาพลักษณ์ที่สวยงามให้กับตัวเองนะ ถ้าไม่เชื่อก็ลองทำอะไรเพื่อคนอื่นดู แล้วคุณจะรู้ว่าสิ่งที่ต้าพูดมันคือเรื่องจริง

อย่าคิดเยอะ เพราะเดี๋ยวเจอกับดักความฉลาด

แม้จะเป็นนักธุรกิจที่ทำเงินได้เยอะ แต่เมื่อถามว่ามีอะไรอยากจะฝากถึงสาวๆ ทั้งหลายที่อยากจะเป็น Girl Boss แบบเธอบ้าง คุณต้ากลับตอบเรามาว่า

อย่าไปคิดเยอะ คนเราเดี๋ยวนี้ชอบติดกับดักความฉลาดของตัวเอง พอรู้เยอะก็จะไม่กล้าทำนู่นทำนี่ อันนู้นไม่ดี อันนี้มีคนทำแล้ว

แต่พอต้าลองมาสังเกตนักธุรกิจที่เก่งๆ คนเหล่านี้จะไม่คิดเยอะเลยเค้าคิดแค่ว่าถ้าเจอช่องทางไหนที่ทำเงินได้ก็จะทำทันทีไม่สนว่าจะต้องเจอปัญหาเยอะแค่ไหนเพราะมันเป็นสิ่งที่สามารถค่อยๆ แก้ไประหว่างทางได้

อย่างเพิ่งไปคิดถ้าปัญหามันยังไม่เกิดขึ้น เพราะมันจะทำให้เราไม่ได้ทำอะไรเลยในที่สุด

แม้ O&B จะมีรายได้แตะหลักร้อยล้านในปีที่ผ่านมา แต่ร้อยล้านก็ไม่ได้ทำให้คุณต้าคิดว่าตัวเองประสบความสำเร็จมากมายแต่อย่างใด เพราะเธอยังไม่หยุดท้าทายตัวเองด้วยการตั้งเป้าหมายใหม่ที่กำลังจะพาแบรนด์ไทยออกไปยังตลาดต่างประเทศในปลายปีนี้

คิดไม่เยอะ แต่ทำเยอะจริงๆ

นี่แหละ Mo.Girl Boss  ของเรา

Be Mo. Girl Boss likes k.Ta click > mo-80-waiting-list[/vc_column_text][/vc_column][/vc_row]