ในบรรดา Mo Girl Boss ทั้ง 5 คนของ Mo. ดูเหมือนว่า Girl Boss 004 คนนี้จะมี Character ที่ตรงกับแบรนด์ของเรามากที่สุด
ไม่ว่าจะเป็นสไตล์การแต่งตัว แนวคิดในการทำงาน การใช้ชีวิต ที่จะเรียกว่าเป็น Minimalist ตัวจริงก็คงจะไม่ผิด สำหรับคุณพิณ วรรวณิชย์ จิตรประทักษ์
จากอดีต Interior Designer ของบริษัทใหญ่ที่รับแต่งานตกแต่งภายในระดับ Big Project คุณพิณตัดสินใจลาออกมาจากงานประจำที่ทำมา 7 ปี เพื่อมาเปิดบริษัท Interior Design ของตัวเองในนามของ DIN Studio
ที่แม้จะเป็นเพียงบริษัทเล็ก ๆ แต่ Portfolios ของ DIN Studio กลับ ‘ไม่ได้เล็กไปตามบริษัทแต่อย่างใด’
ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งภายในให้กับเรือ Cruise ชื่อดัง หรือกับการออกแบบภายในให้กับโรงแรมระดับ 5 ดาวแห่งหนึ่งในประเทศกัมพูชา ที่ตัวเธอเองก็ยังแอบรู้สึกแปลกใจว่า ทำไมงานสไตล์เรียบง่าย ไม่หวือหวาของ DIN Studio ถึงสามารถชนะใจเจ้าของโปรเจ็ค ที่ในอดีตเคยใช้แต่บริษัท Big Name มาได้
ลาออกจากงานประจำ เพราะอยากทำงานสนุกๆ ของตัวเอง แต่ชีวิตจริง กลับไม่ได้สนุกอย่างที่คิดไว้
ด้วยฝีมือและระยะเวลาในการทำงานที่นานกว่า 7 ปี จึงไม่ต้องบอกว่างานประจำของเธอมันจะมีความมั่นคงขนาดไหน
แต่ในเมื่อความมั่นคงไม่สามารถตอบโจทย์ชีวิตการทำงานที่ยังอยากทำอะไรที่ท้าทายความสามารถของตัวเองอยู่ได้ เธอจึงตัดสินใจลาออกมาจากงานประจำที่มักจะทำแต่โปรเจ็คใหญ่ๆ แล้วออกมาทำบริษัทออกแบบภายในเล็กๆ เป็นของตัวเองกับพาร์ทเนอร์อีกคนหนึ่ง เพียงเพราะเหตุผลที่ว่า “อยากจะทำโปรเจ็คเล็กๆ สนุกๆ เป็นของตัวเอง”
แต่พอลาออกมาจริงๆ มันกลับไม่ได้สนุกอย่างที่คิดไว้ เพราะค่าตอบแทนจากการทำโปรเจ็คเล็กๆ นั้นไม่เพียงพอต่อ Fixed Cost ที่ต้องจ่ายในทุกเดือน แถมบางครั้งก็ไม่มีเงินเดือนให้กับตัวเอง เพราะต้องเอาไปหมุนจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเช่า เพื่อให้บริษัทอยู่รอดไปก่อน
จากที่เคยอยากทำเพราะความสนุก คราวนี้กลายเป็นว่าพอมีงานเล็กใหญ่อะไรเข้ามาก็ต้องทำ จนงานเริ่มเยอะขึ้นเรื่อยๆ 4-5 ทุ่มยังไม่ได้กลับบ้าน ที่เธอบอกกับเราว่า
“มันเป็นอะไรที่หนักมากในตอนนั้น”
“แต่ก็ต้องขอบคุณความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของตัวเองเหมือนกัน เพราะถ้าเรารู้ก่อนหน้าว่ามันจะเหนื่อยขนาดนี้ เราคงไม่กล้าเดินออกมาจาก Comfort Zone และคงไม่กล้าเปลี่ยนแปลงอะไร”
แรกๆ ยากเพราะยังไม่มี Portfolio
แม้จะเป็น Interior Designer มานานกว่า 7 ปี แต่ DIN Studio ยังถือเป็นน้องใหม่ในวงการออกแบบภายใน
สิ่งที่คุณพิณต้องทำนั่นก็คือการสร้าง Portfolio เพิ่มเพื่อขยายฐานลูกค้าใหม่ โดยใช้จุดเด่นของงานออกแบบที่เรียบง่าย ถึงจะไม่หวือหวา แต่เป็นสิ่งที่ใช้งานได้นาน
แม้ชื่อของ DIN Studio จะมาจากคำว่า Dimentional Interpretation แต่มันก็เชื่อมโยงไปยังคำว่า “ดิน” ในภาษาไทย ซึ่งหมายถึงสิ่งธรรมดาที่เป็นพื้นฐานของทุกสิ่งอย่างในโลก
สุดท้าย Portfolios ในสไตล์ที่เรียบง่าย ก็สามารถชนะใจลูกค้าหลายรายได้สำเร็จ และทำให้บริษัทเล็กๆ ที่เกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของคุณพิณ กำลังจะก้าวเข้าสู่ปีที่ 4 อย่างเต็มตัวในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า พร้อมกับทีมงานที่ขยายจาก 2 เป็น 10 คน ที่แม้เธอจะคือ Founder แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะให้เครดิตพาร์ทเนอร์และทีมงานทุกๆ คนที่ช่วยก่อร่างสร้าง DIN Studio ด้วยกันมา
เติบโตช้าๆ อย่างใช้เวลา แต่มั่นคงเหมือนกับ “ดิน” สิ่งที่ยากจะพังทลายลงไป
งานของ DIN Studio คือเปลี่ยนความคิดในหัวลูกค้า ให้กลายมาเป็นรูปเป็นร่าง
“เบื้องหลังของงานดีไซน์ต่างๆ มันเกิดจากการที่เราเข้าไปนั่งในใจลูกค้า แล้วเปลี่ยนสิ่งที่ขมุกขมัวอยู่ในใจของเค้าให้ออกมาเป็นรูปเป็นร่าง”
คำพูดดังกล่าวสามารถสะท้อนแนวคิดในการทำงานของคุณพิณออกมาได้อย่างน่าสนใจ และเราคิดว่า นี่แหละน่าจะเป็นกุญแจสำคัญในการเอาชนะหัวใจของลูกค้าได้
เพราะคนทำงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์อย่างเหล่า Creative หรือ Designer ทั้งหลายมักจะมองว่าลูกค้ามีแต่เงิน แต่สกิลในเรื่องของความคิดสร้างสรรค์ยังสู้ไม่ได้ ไอเดียของพวกเขาจึงเป็นอะไรที่ดีที่สุด เจ๋งที่สุด หากลูกค้าไม่ชอบหรือสั่งปรับแก้ใหม่ ก็มักจะคิดว่าลูกค้าไม่เข้าใจ เอาแต่ขายของ เอาแต่ Hard Sale
จนลืมไปว่า คนที่รู้จักและเข้าใจในตัวแบรนด์ดีที่สุดก็คือตัวเจ้าของซึ่งก็คือลูกค้านั่นเอง
เธอจึงไม่เคยคิดว่าตัวเองเก่งหรือเจ๋งมากกว่าลูกค้า แม้จะมีความเชี่ยวชาญในด้าน Interior Design มากกว่า สิ่งที่คุณพิณทำจึงเป็นการทำให้ไอเดียของเธอและลูกค้ามาเจอกันกึ่งกลาง เจ้าของ Main Idea คือลูกค้า แต่เจ้าของไอเดียที่ตีความคิดลอยๆ ให้ออกมาเป็นรูปธรรมก็คือ Din Studio และพองานออกมาเป็นที่พอใจ สุดท้ายเขาก็จะเอาเราไปแนะนำแบบปากต่อปาก ซึ่งถือเป็นวิธีที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกเชื่อใจมากกว่าวิธีไหนๆ
อยากให้งานออกแบบอยู่นาน ต้องใส่เรื่องราวเพิ่มเข้าไป
เพราะความสวยเป็นเพียงแค่สิ่งฉาบฉวย แต่สิ่งที่อยู่ได้นานคือความหมายที่ซ่อนอยู่ในสิ่งนั้นๆ ต่างหาก
ก่อนจะลงมือออกแบบในแต่ละงาน คุณพิณจึงต้องลงพื้นที่ทำ Research เรื่องราวความเป็นมาเป็นไปของสิ่งนั้นๆ ก่อน
อย่างถ้ามีงานออกแบบรีสอร์ท การทำ Research ของเธอก็ไม่ใช่แค่ลงไปดูพื้นที่ว่ามีขนาดเท่าไหร่ บรรยากาศรายรอบของรีสอร์ทนั้นเป็นยังไง แต่ยังลงลึกไปถึงวัฒนธรรม ชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนบริเวณนั้นๆ แล้วจับมันมาเป็นส่วนหนึ่งในงานดีไซน์ ซึ่งก็จะทำให้งานออกแบบอยู่ได้นาน เพราะมันมีเรื่องราวอยู่ในนั้น ไม่ใช่แค่สวยแบบฉาบฉวยพอหมดเทรนด์แล้วความสวยก็หมดไป
ที่สำคัญการเปลี่ยนเทรนด์งาน Interior Design มีค่าใช้จ่ายอยู่พอสมควร ไม่ได้ง่ายหรือถูกเหมือนกับเทรนด์ของเสื้อผ้า การทำให้งานออกแบบภายในอยู่ได้ในระยะเวลาที่นานจึงเป็นอะไรที่สำคัญ
อีกทั้งการใส่ story ต่างๆ ลงไปในงานดีไซน์ ก็จะทำให้ลูกค้าเข้าใจและคล้อยตามในงานของ DIN Studio มากขึ้นด้วย
ต้อง Keep Balance อย่าให้ความสำคัญกับงานไปมากกว่า (ใจ) ตัวเอง
เพราะอุปกรณ์หลักในการทำงานที่เกี่ยวกับความคิดสร้างสรรค์คือ ‘สมอง’ ที่แม้จะเลิกงานไปแต่มันยังเป็นอุปกรณ์ที่เราไม่สามารถทิ้งไว้ที่ออฟฟิศได้
การ Keep Balance ของคนที่ทำงานในลักษณะนี้จึงเป็นอะไรที่สำคัญมาก เพราะถ้าเราไม่รู้จักแบ่งเวลางาน จากที่มันเคยเป็นเพียงส่วนหนึ่งในชีวิต คราวนี้งานก็จะค่อยๆ กลืนกินเวลาในชีวิตส่วนตัวของเราและครอบครัวไป
ซึ่งมันไม่ควรจะเป็นแบบนั้น
คุณพิณจึงเลือกจัดการกับอุปกรณ์ที่ไม่สามารถทิ้งไว้ที่ออฟฟิศเหมือนกับ Sketch แบบงาน ด้วยวิธีการ “เจริญสติ” ซึ่งเธอบอกว่ามันเป็นวิธีที่ทำให้สามารถปล่อยวางเรื่องราวและความคิดต่างๆ มาอยู่กับปัจจุบันได้อย่างเต็มที่
“มีช่วงนึงเหมือนกันที่ทำงานเยอะมาก เยอะจนเครียดแล้วเก็บเอาไปฝัน ถึงเวลาเลิกงานแต่เหมือนกับว่าเราไม่ได้เลิกงานจริงๆ เราเอามันกลับไปคิดต่อที่บ้าน
ยิ่งในยุคนี้ที่มี Notification ต่างๆ เตือนเราอยู่ตลอดเวลา มันยากที่จะแยกวันทำงานกับวันหยุดออกจากกันได้ ยิ่งเราเป็นเจ้าของบริษัท เราเลยจัดการด้วยสติของเราเอง ซึ่งการเจริญสติคือวิธีที่ทำให้เราอยู่กับปัจจุบัน”
หรือถ้าทั้งหมดมันยังไม่สามารถทำให้เธอ Keep Balance ระหว่างเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวได้จริง ๆ สิ่งสุดท้ายที่เธอจะทำ ก็คือการ
“ปล่อยมันไป”
เป้าหมายในอนาคตของ DIN Studio คืออะไร ก็ยังไม่รู้เหมือนกัน
เพราะการทำธุรกิจเป็นสิ่งที่จะต้องตั้งเป้าหมายในอนาคตเอาไว้ แต่เมื่อถามว่าแล้วเป้าหมายของ DIN Studio คืออะไร สิ่งที่คุณพิณตอบกลับมา ก็คือคำพูดที่ว่า
“ไม่รู้เหมือนกัน”
แต่เดี๋ยวก่อนทุกคน! อย่าเพิ่งตั้งคำถามในใจ ว่าแล้วแบบนี้เธอจะทำธุรกิจไปเพื่ออะไร เพราะคุณพิณยังได้ขยายความคำตอบในข้างต้นเพิ่มว่า
“ไม่ได้ตั้งเป้าหมายเหมือนธุรกิจใหญ่ๆ ก็ไม่ได้แปลว่า DIN Studio ไม่มีจุดหมายนะ เพียงแต่เราแค่คิดว่าบางครั้งการคิดถึงอนาคตมากจนเกินไป มันก็มักจะทำให้เราลืมทำปัจจุบันที่มีอยู่ให้ดี
สุดท้ายถ้าตั้งเป้าหมายให้ดีแค่ไหน แต่ปัจจุบันยังไม่โฟกัสมันให้ดีเลย แล้วอนาคตมันจะไปดีได้ยังไง
เราแค่คิดว่าถ้าทำปัจจุบันให้ดี เดี๋ยวสุดท้ายมันก็จะพาเราไปอยู่ในอนาคตที่ดีได้เอง
เราคิดแบบนี้จริงๆ นะ” –วรรวณิชย์ จิตรประทักษ์ Mo Girl Boss 004, The Minimalist Interior Designer.
Be Girl Boss likes k.Pin click > Doctor Mo. New York BLACK